ย้อนรอยคดีดัง น.ศ.จีน วางยาพิษเพื่อน 800 คน แก้แค้นสุดโหด

ย้อนรอยคดีดัง น.ศ.จีน วางยาพิษเพื่อน 800 คน แก้แค้นสุดโหด

ย้อนรอยคดีช็อกโลกในประเทศจีน น.ศ.จีน วางยาพิษเพื่อน 800 คน หามส่งโรงพยาบาลจนเตียงไม่พอ พร้อมเผยปมลงมือสุดโหดนี้ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม เว็บไซต์ SAOStar ได้ย้อนคดีในปี 2535 ซึ่งเรียกว่าเป็นคดีที่น่าตกใจ เพราะว่าเกิดเหตุนักศึกษาวางยาพิษเพื่อน 800 คน ภายในวิทยาลัยการเงินในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน และวางยาพร้อมๆกันด้วย ทำเอานักศึกษาต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2535 

โดยในขณะที่คาบเรียนดำเนินไปอย่างปกตินั้น อยู่ดีๆ นักศึกษาจำนวนมากก็มีอาการคลื่นไส้ ปวดหัว และอาเจียนออกมาพร้อมๆกัน และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นภายในแค่ห้องเรียนอย่างเดียว แต่ บริเวณโรงอาหาร หอพัก เกือบทุกจุดในมหาวิทยาลัยต้องมีนักศึกษาล้มป่วย

ผู้ได้รับพิษนั้น มีไข้สูง ปัสสาวะลำบาก และแขนขาชักงอ โดยจำนวนผู้ได้รับสารพิษเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และผ่านไป 1 ชั่วโมง ตัวเลขผู้ป่วยก็เพิ่มขึ้นสูงถึง 803 คน จนโรงพยาบาลเต็มและไม่สามารถรับผู้ป่วยใหม่เข้ามาเพิ่มได้ จนต้องประสานสถานีแพทย์ของสถาบันกองทัพปลดปล่อยในบริเวณใกล้เคียง เพื่อส่งแพทย์ทหารเข้ามาช่วยเหลือ แต่ท้ายที่สุดเตียงในโรงพยาบาลรวมทั้งในสถาบันกองทัพก็เต็มเช่นเดียวกัน

ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุของเรื่องราวสุดน่ากลัวในครั้งนี้และได้สุ่มสุ่มตัวอย่างอาหาร 30 ชนิดไปตรวจสอบ ก่อนพบว่ามีสารหนูปนเปื้อนในบะหมี่โรงอาหาร และจำเป็นต้องใช้ยาซัคซิเมอร์ในการรักษา แต่มียาไม่พออีก โชคดีทางเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ระดมยาซัคซิเมอร์ พร้อมประสานสายการบินให้ช่วยเหลือด้านการขนส่งอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะรักษาผู้ป่วยได้ทันและไม่มีเรื่องเลวร้ายไปกว่านั้น

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ คนทำอาหาร ซึ่งตำรวจก็ไม่คิดว่าคนทำอาหารเป็นผู้ก่อเหตุเนื่องจากไม่มีแรงจูงใจ อย่างไรก็ตามตำรวจก็พบคนร้ายวางยาพิษเพื่อน 800 คน หลังจากที่ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ซื้อสารหนู และพบว่าผู้เกี่ยวข้อง คือ หลี่หยุน วัย 21 ปี

ตำรวจจึงได้ค้นห้องของ หลี่หยุน ผู้ต้องสงสัยวางยาเพื่อน และพบว่า เธอมีถุงมือยางคู่หนึ่งที่เปื้อนสารพิษซึ่งพบในแป้งทำบะหมี่ และยังมียาฆ่าแมลงชนิดกรดซัลฟิวริกเข้มข้น รวมทั้งอาวุธอันตรายอื่น ๆ ได้แก่ มีดทำครัว กริช และเลื่อยตัดโลหะ โดยในวันเกิดเหตุเธอไม่ได้ไปร่วมทานอาหารในโรงอาหารแต่นั่งในห้องเพียงลำพัง

ผู้ก่อเหตุได้ซื้อสารหนู 700 กรัม ตั้งแต่วันที่ 2, 12 และ 27 พฤษภาคม และใช้เอกสารปลอมในการซื้อเพื่อให้เธอไม่สามารถถูกจับได้ และในวันเกิดเหตุ หยุนเอาสารหนูที่ซ่อนใต้เตียง ลงไปที่ห้องน้ำหญิงชั้น 1 จากนั้นก็ถอดลูกกรง แล้วปีนออก กระโดดเข้าหน้าต่างไปในโรงอาหาร เทสารหนูลงในถุงแป้งและเครื่องรีดแป้ง เมื่อเสร็จก็กลับทางเดิม ขึ้นห้องไปซักเสื้อผ้าจนเสร็จประมาณ 04.00 น.

หลี่หยุนจำนนด้วยหลักฐานและรับสารภาพว่าเธอเป็นก่อเหตุสุดอุกอาจครั้งนี้ขึ้น โดยเธอเล่าว่า หลี่หยุนถูกลงโทษทางวินัย เนื่องจากมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้ชายที่แต่งงานแล้ว อีกทั้งยังแอบอ้างเป็นเพื่อนร่วมชั้นเพื่อรับจดหมายโอนเงิน จนถูกพักการเรียน 1 ปี เมื่อเพื่อนรอบข้างพากันรังเกียจ เธอจึงวางแผนแก้แค้นเพื่อนของเธอ ตอนแรกจะสาดน้ำกรดหรือใช้มีดไล่แทง แต่ท้ายที่สุดเธอเลือกจะวางยาพิษ 800 คน แทน เพราะเธอเป็นคนกลัวเลือด

ยุโรป เดินหน้าสั่งเปลี่ยนสายชาร์จทุกชนิดเป็นแบบ USB-C มีผลปี 67

ยุโรป มีมติเดินหน้าสั่งเปลี่ยนสายชาร์จทุกชนิดเป็นแบบ USB-C ส่งผลกระทบโดยตรงกับ สายชาร์จไอโฟน ชี้เพื่อลดขยะสิ่งแวดล้อมและช่วยประหยัดเงิน เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานว่า รัฐสภายุโรปได้มีมติบังคับให้ทางบริษัทโทรศัพท์มือถือเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกยี่ห้อต้องมีสายชาร์จแบบ USB-C เพื่อลดขยะสิ่งแวดล้อม และลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อสายชาร์จหลายๆชนิด

การเปลี่ยนเป็นสายชาร์จเป็นแบบ USB-C นั้นจะส่งผลกระทบกับสายชาร์จไอโฟน ของบริษัทแอปเปิลโดยตรง และต้องโบกมือลา Lightning port ซึ่งแม้ว่าทางแอปเปิลจะไม่พอใจกับตัดสินใจดังกล่าว แต่มีรายงานว่าทางแอปเปิลกำลังทดลองผลิตไอโฟนโดยช้สายชาร์จแบบ USB-C แทน อย่างไรก็ดี แอปเปิลแล็ปท็อป และ ไอแพดโปร นั้นใช้สายชาร์จแบบนี้อยู่แล้ว

ขั้นตอนต่อไปนั้น สมาชิกรัฐสหภาพยุโรป หรือ EU จะร่วมลงนามรับรองเป็นครั้งสุดท้าย และคาดว่าจะถูกเขียนเป็นกฎหมายในต้นปีหน้า สำหรับกฎหมายฉบับใหม่นั้นระบุว่า ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2567 มือถือและแท็บเล็ตทุกชนิดจะต้องเปลี่ยนมาใช้สายชาร์จ USB-C โดยแล็บท็อปจะมีเวลานานกว่าในการเปลี่ยนแปลงสายชาร์จของพวกเขาเอง

กฎหมายฉบับนี้ถูกคิดขึ้นเพื่อลดขยะสิ่งแวดล้อมและเชื่อว่าช่วยประหยัดเงินผู้บริโภค 9 พันล้านบาท โดยทางสภาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงกฎหมายจะทำให้ชีวิตของชาวยุโรปง่ายขึ้นด้วย

ศาลพิพากษาว่า จําเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 5 (2) 11, 12 วรรคหนึ่ง, 58, 60 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 6 วรรคสอง, 7, 21 วรรคหนึ่ง, 32, 33, 34, 35 วรรคสอง, 43 (4) (8), 46 (2), 67 วรรคหนึ่ง, 70, 148 วรรคหนึ่ง 151, 152, 158, 160 วรรคสาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มาตรา 11, 39 กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วสำหรับการขับรถในทางเดินรถ พ.ศ. 2564 ข้อ 3, 44 (3) กฎกระทรวงกำหนดส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถ พ.ศ. 2551 ข้อ 3 (20), 5 (1)

แนะนำ : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง