‘ไต้ฝุ่นไร’ (Typhoon Rai) พัดขึ้นฝั่งที่ ‘ฟิลิปปินส์’ แล้ว

‘ไต้ฝุ่นไร’ (Typhoon Rai) พัดขึ้นฝั่งที่ ‘ฟิลิปปินส์’ แล้ว

ไต้ฝุ่นไร (Typhoon Rai) ได้ทำการพัดขึ้นฝั่งประเทศ ฟิลิปปินส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทางการได้ดำเนินการอพยพผู้คนหนีภัยพายุเกือบแสนกว่าคนแล้ว วันนี้ (17 ธ.ค. 2564) พายุ ไต้ฝุ่นไร (Typhoon Rai) ได้ทำการพัดเข้าชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศ ฟิลิปปินส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค. 2564) โดยส่งผลให้เกิดฝนตกขนานใหญ่, น้ำท่วมไหลหลาก และดินถล่มในหลายพื้นที่ทั่วหมู่เกาะฟิลิปปินส์

พายุไต้ฝุ่นไร หรือที่เรียกกันในชื่อท้องถิ่นว่า โอเด้เต้ (Odette) นั้น 

ได้มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการเพิ่มกำลังจากในระดับ 1 มาเป็นระดับ 5 ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมง และมีกำลังแรงลมต่อเนื่องอยู่ที่ 260 กม. ต่อ ชม. – ลมกระโชกอยู่ที่ 300 กม. ต่อ ชม.

ตามการรายงานของคณะกรรมการจัดการ และลดความเสี่ยงของภัยพิบัติแห่งชาติ (National Disaster Risk Reduction and Management Council (NDRRMC)) ได้กล่าวว่า ในเวลานี้ได้มีการอพยพผู้คนจากที่อยู่อาศัยของพวกเขาไปยังที่หลบภัยที่ทางการได้จัดทำไว้แล้วถึง 198,000 คน

โดยหลายคนนั้นได้เริ่มมีการอพยพ และเตรียมการรับมือกับพายุดังกล่าวตั้งแต่ต้นอาทิตย์ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่เริ่มเห็นฝนตกที่ตกหนักขึ้น และการเพิ่มขึ้นของน้ำในแม่น้ำท้องถิ่น รวมไปถึงการไหลท่วมของมวลน้ำในท้ายที่สุด

พายุไต้ฝุ่นขนาดใหญ่ (super typhoon) ลูกนี้ ได้ถูกคาดการณ์ว่าจะเคลื่อนตัวผ่านภูมิภาคตอนกลาง และตอนใต้ของประเทศ โดยพื้นที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดนั้นก็คือจังหวัดซูรีเกา (Surigao Province) ที่อยู่ตอนเหนือของเกาะมิดาเนาะ (Mindanao) หนึ่งในเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

ซึ่งในเวลานี้ผู้คนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว และใกล้เคียงนั้น ได้เริ่มดำเนินการอพยพไปอยู่ในที่หลบภัยกันแล้ว ทางด้านของโฆษก NDRRMC ได้กล่าวว่าทางหน่วยงานได้มีการเรียนรู้จากภัยพิบัติที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2011 และ 2013 โดยความกังวลใหญ่ในครั้งนี้ก็คือผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณหมู่บ้านประมง หรือพื้นที่ที่มีประชากรยากจน ที่ซึ่งไม่เข้าถึงการประกาศอย่างเป็นทางการ หรือไม่สามารถทำการอพยพออกจากพื้นที่ได้

จากการศึกษาล่าสุดของนักวิจัย ณ สถาบันวิจัยเซินเจิ้นของมหาวิทยาลัยฮ่องกง (Shenzhen Institute of Meteorological Innovation and the Chinese University of Hong Kong) ได้กล่าวว่า ภายหลังจากจบศวรรษนี้ พายุไต้ฝุ่นในภูมิภาคเอเชียนั้นอาจจะมีการเพิ่มขึ้นของความรุนแรงเป็น 2 เท่า ซึ่งมันนั้นจะมีระยะเวลานานขึ้น 2 ถึง 9 ชั่วโมง และจะเคลื่อนตัวได้ไกลขึ้นกว่าช่วงเวลาก่อนหน้านี้

กลายเป็นเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ แมงมุมเกาะตัว รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย เจ้าตัวรายงานต่อ อย่างไม่มีปัญหา เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม สำนักข่าว BBC ได้รายงานถึงเหตุการณ์ที่ขึ้นในขณะการรายงานสถานการณ์โควิดประจำวันในประเทศออสเตรเลีย โดยนางอีเวท ดาธ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัฐควีนส์แลนด์ ที่กำลังรายงานสถานการณ์โควิดอยู่นั้น ถูกรบกวนด้วยแมงมุมฮันท์แมนที่ขึ้นมาเกาะตัวเธอ

โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งถึงแมงมุมที่อยู่บนร่างของเธอ ซึ่ง ดาธ ก็ยังคงใจเย็นและบอกกับเจ้าหน้าที่ให้นำแมงมุมออกจากตัวเธอ ซึ่งเธอพูดติดตลกว่า เธอจะแสดงให้ประชาชนดูว่าเธอใจเย็นขนาดไหน ด้วยการแถลงข่าวต่อ และแสร้งทำเป็นว่าแมงมุมไม่อยู่บนตัวเธอ แม้เธอจะไม่ชอบแมงมุมก็ตาม

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำแมงมุมออกจากตัวเธอได้ ก่อนที่แมงมุมจะไปที่อื่น และทำให้การรายงานกลับมาปกติอีกครั้ง แมงมุมฮันท์แมนหรือแมงมุมนายพราน เป็นแมงมุมขนาดใหญ่และมีขายาวถึง 15 เซนติเมตร แม้ว่ามันจะเป็นแมงมุมที่มีพิษ แต่แมงมุมชนิดนี้มักจะไม่กัดสิ่งมีชีวิตอื่น และทำให้แมงมุมชนิดนี้ถือเป็นแมงมุมที่ไม่อันตราย

ราชวงศ์เนเธอร์แลนด์ ขอโทษหลังจัดงานเลี้ยง แหกกฎโควิด

ราชวงศ์เนเธอร์แลนด์ ออกโรงขอโทษ หลังจากที่ถูกประชาชนจวกยับ กรณีจัดงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันประสูติ แหกกฎโควิด ที่ระบุห้ามรับแขกเกิน 4 คน

เมื่อวันที่่ 16 สิงหาคม สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน ได้ออกมารายงานว่า ราชวงศ์เนเธอร์แลนด์ทรงออกมาแสดงความเสียใจหลังจากที่ เจ้าหญิงคาทารีนา-อามาเลีย เบียทริกซ์ คาร์เมน วิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งเนเธอร์แลนด์ ทรงเชิญแขก 21 คนร่วมงานฉลองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 18 พรรษา เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ซึ่งนำเป็นสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากเป็นการละเมิดมาตรการโควิด-19 ซึ่งในขณะนี้ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ห้ามไม่ให้ประชาชนรับแขกที่มีอายุเกิน 13 ปี มากกว่า 4 คน

โดยนาย มาร์ค รุตเตอร์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ได้เขียนจดหมายต่อรัฐสภา “แขกทุกคนในงานรับผิดชอบในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค มีการรวมตัวในสถานที่เปิดกลางแจ้งอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้แขกยังได้ทำการตรวจโควิด-19 และฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว โดยเชื่อว่าพวกเขารักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลม-อเล็กซานเดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ ทรงตรัสกับตนว่า “มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จัดงานเลี้ยงครั้งนี้”

ทั้งนี้ไม่มีรายงานแน่ชัดว่ามีแขกเข้าร่วมงานเกิดครั้งนี้กี่คน

เครดิต : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง